วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2562

โซเชียลมีเดีย ส่งผลให้เราซื้อมากขึ้นเรื่อยๆ ได้อย่างไร



บทความต้นฉบับ How Social Media Influences Us to Buy
เขียนโดย 

(ขอยืมภาพจาก https://www.becomingminimalist.com/social-media-consumerism)

               โซเชียลมีเดียกินพื้นที่จำนวนมากในชีวิตของเรา ถ้าคุณเชื่อเรื่องสถิติ มันคือพื้นที่ขนาดใหญ่ในชีวิตของเรา มีผู้ใช้โซเชียลมีเดียเป็นประจำ เป็นจำนวน 3.4 พันล้านคน ซึ่งโดยเฉลี่ยมี 7.6 แอคเคาท์ต่อคน และใช้โซเชียลมีเดียเฉลี่ย 116 นาทีต่อวัน 91 % ของผู้ค้าปลีกใช้โซเชียลมีเดียอย่างน้อยสองอย่าง 81% ของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางใช้โซเชียลมีเดียเพื่อโฆษณา

                ตัวเลขเหล่านี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีแนวโน้มจะลดลงในอนาคต ผู้ใช้โซเชียลมีเดียเพิ่มจำนวนกว่า 320 ล้าน ระหว่างกันยายน 2017 ถึงตุลาคม2018 มีผู้ใช้งานใหม่เกิดขึ้นทุก 10 วินาที

                โซเชียลมีเดียส่งผลกระทบสำคัญต่อวิธีใช้ชีวิตของเรา จากพาดหัวข่าวที่เพิ่งผ่านมาไม่นานของหนังสือพิมพ์ Washington Post กล่าวว่า การโพสจากเพื่อนของเราสร้างแรงกระตุ้นให้เราบริโภคมากขึ้น โซเชียลมีเดียคือหนึ่งในสาเหตุสำคัญ ซึ่งคุ้มค่าที่จะศึกษาว่าทำไม

                นี่คือวิธีการที่โซเชียลมีเดียกระตุ้นให้เราซื้อของ

                เราสามารถเห็นการจับจ่ายใช้สอยส่วนตัวได้มากขึ้น หนังสือพิมพ์กล่าวว่า “มนุษย์เป็นสัตว์สังคม เรามีแนวโน้มจะประเมินมาตรฐานการใช้ชีวิตของตนเองโดยเทียบกับสิ่งที่เพื่อนและเพื่อนบ้านของเราทำ เราอยากตามโจนให้ทัน อยากนำหน้าสมิท ด้วยเหตุนี้เมื่อเราเห็นคนอื่นใช้เงิน จึงมีแนวโน้มจะคิดว่าเราสามารถหรือควรใช้เงินบ้าง” ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการเห็นคนอื่นใช้เงินซื้อสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน อาหาร การท่องเที่ยว สร้างแรงกระตุ้นอันละเอียดอ่อนให้เราทำตาม

                โฆษณาที่เพิ่มขึ้นและเข้าถึงเป้าหมายได้มากขึ้น สื่อต่างๆ ให้พื้นที่โฆษณา ทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วิทยุ และนิตยสาร พวกมันเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ระดับหนึ่ง ผู้อ่านนิตยสาร Shape ย่อมเห็นโฆษณาแตกต่างจากนิตยสาร National Geographic แต่ไม่เคยมีพื้นที่สื่อใดในประวัติศาสตร์ ที่ให้โอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากเท่าโซเชียลมีเดีย ทั้ง Facebook, Twitter, Instagram, Pinterest, Youtube กระทั่ง Amazon ต่างเก็บสะสมข้อมูลส่วนตัวของเรา โฆษณาที่เราเห็นมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น บริษัทต่างๆ ใช้ข้อมูลเหล่านั้นเพื่อเลือกว่าจะให้ใครเห็นโฆษณาของพวกเขา

                การซื้อของทำได้ง่ายดายจากอุปกรณ์ของเรา (มือถือ แท็บเล็ต โน๊ตบุ๊ค) โฆษณาในโซเชียลมีเดียมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะผู้บริโภคมีโอกาสซื้อในทันที ในอดีตถ้าคุณเห็นโฆษณาในโทรทัศน์ คุณจำเป็นต้องจดจำไว้ เมื่อไปที่ร้านค้าคราวหน้า ความลำบากนี้ช่วยลดผลกระทบของโฆษณาเหล่านั้น ทว่าปัจจุบันนี้ ความยากลำบากได้ถูกขจัดออกไป เราเห็นโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย และได้รับโอกาสให้ซื้อของชิ้นนั้นเพียงแค่คลิกไม่กี่ครั้งในเวลาไม่กี่วินาที

                แสวงหายอด “Likes การเห็นผู้คนในโซเชียลมีเดียไม่เพียงสร้างแรงกระตุ้นให้เราซื้อของเท่านั้น บ่อยครั้งเราซื้อเพื่อให้คนอื่นมองเห็นเรา เป็นเรื่องง่ายที่จะตกหลุมพรางของการแสวงหายอดไลค์ และเพิ่มผู้ติดตามในโซเชียลมีเดีย ผู้สร้างโฆษณาให้รางวัลตอบแทนในเรื่องนี้ ทั้งของคุณภาพดี ผลิตภัณฑ์ตามกระแส สถานที่ท่องเที่ยวอันตื่นตาตื่นใจ อาหารและเครื่องดื่มรสเลิศ ต่างหาผลประโยชน์ได้ดีในโซเชียลมีเดีย  พวกเราส่วนใหญ่ต่างรู้ดี และใช้เงินมากเกินควรเพื่อทำให้ผู้คนในโซเชียลมีเดียประทับใจในตัวเรา ทว่ายังมีทางอื่นทำให้คนอื่นประทับใจ

                เรื่องแต่งที่เราแชร์ในโลกออนไลน์ หน้าฟีดของโซเชียลมีเดียคือเรื่องแต่งของคนจริง ลองคิดดู ไม่มีใครโพสรูปวันที่อะไรก็ไม่ได้ดั่งใจในโซเชียลมีเดีย หรือเล่าปัญหาลึกๆ รวมทั้งการดิ้นรนอันยากลำบากของพวกเขา ทว่าเรากลับพยายามนำเสนอเรื่องราวดีๆ ของตนเองให้ผู้อื่นเห็น เราพบเจอเรื่องแต่งของผู้คนเหล่านี้ 2 ชั่วโมงต่อวันในโลกออนไลน์ ซึ่งสร้างภาพเรื่องราวอันไม่สมจริงของชีวิตที่ควรเป็นขึ้นมา  เมื่อเราเริ่มเปรียบเทียบตัวเองกับพวกเขา เรามักเชื่อว่าถ้าใช้จ่ายมากขึ้นเราอาจมีชีวิตแบบนั้นได้

                โซเชียลมีเดียกระตุ้นอารมณ์ด้านลบให้เกิดขึ้น มีการค้นคว้าทดลองเกี่ยวกับเรื่องนี้ โซเชียลมีเดียในภาพรวมไม่ได้ทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น จากหลายเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ผู้ใช้โซเชียลมีเดียมักบอกว่ามีระดับความเครียดและความรู้สึกโดดเดี่ยวมากกว่า มีความมั่นใจในตัวเองน้อยกว่า ความรู้สึกแปลกแยกและไม่พอใจมักจบลงด้วยการช็อปปิ้งบำบัด หรือแสวงหาทางแก้ไขความไม่พอใจด้วยการซื้อสิ่งของ

                คนดังในโซเชียลมีเดีย (เช่น ดารา นักแสดง เซเลบ) และผลกระทบจากพวกเขา บริษัทหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ใช้เวลาไม่นานเพื่อให้ได้รับความสนใจ ด้วยการสร้างข่าวครึกโครมในโซเชียลมีเดีย บริษัทและแบรนด์เคยใช้เวลา เงิน และลงแรงเพื่อสร้างความนิยม แต่ปัจจุบันนี้พวกเขาสามารถทำสำเร็จภายใน 24 ชั่วโมง คนดังในโซเชียลมีเดียได้รับการว่าจ้างพวกเขา สามารถสร้างข่าวครึกโครมเกี่ยวกับกระแสใหม่แทบจะในทันที ทว่าการที่บางคนจ่ายเงินจ้างคนดังเหล่านี้ให้ถ่ายรูปคู่กับกระเป๋าสตางค์รุ่นใหม่ หรือรองเท้ายี่ห้อใหม่ ไม่ได้แปลว่ามันคือสิ่งที่เราจำเป็นต้องมีในวันนี้ หรือวันหน้า

                โซเชียลมีเดียสำหรับผม ณ ตอนนี้ ให้โอกาสอันน่าอัศจรรย์ในการเพิ่มคุณค่าให้กับชีวิต แต่ก็เหมือนกับไฟ มันต้องใช้เวลาสักพักในสังคม เพื่อค้นพบว่าจะใช้ให้เกิดประโยชน์และไม่เป็นโทษได้อย่างไร ความหวังของผมในการเขียนหัวข้อนี้ คือเปิดเผยอันตรายบางอย่างในโซเชียลมีเดีย เพื่อให้เราสามารถใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดมากขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

What is Minimalism? มินิมอลลิสม์ คืออะไร

ข้อผิดพลาดประการหนึ่งของมินิมอลลิสม์ที่ควรหลีกเลี่ยง Avoid This One Minimalism Mistake

               ในวีดีโอขนาดสั้นนี้   ผมจะแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับข้องผิดพลาดประการหนึ่ง ซึ่งมักพบเจอในผู้คนที่เริ่มฝึกใช้ชีวิตแบบมิ...