วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

รีวิวหนังสือ อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป


                


                 หนังสืออะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป เป็นหนังสือที่นำเสนอแนวคิดของมินิมอลลิสม์ รวมทั้งวิธีลดปริมาณข้าวของ หลังจากอ่านจบ เรามองว่าฟุมิโอะผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ นำเสนอแนวทางแบบมินิมอลลิสม์สายแข็ง (extreme minimalism) เพราะเขามีข้าวของน้อยมาก ขนาดสามารถเก็บของทั้งหมดเพื่อย้ายบ้านในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ข้าวของคงน้อยมากจริงๆ อาจมีไม่ถึง 100 ชิ้นด้วยซ้ำ

                ผู้ที่ไม่เคยศึกษาเรื่องมินิมอลลิสม์มาก่อน เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้ อาจเข้าใจว่าการเป็นมินิมอลลิสม์ต้องมีข้าวของน้อยมาก มีแค่เท่าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพและการทำงานเพียงไม่กี่ชิ้น จนอาจเกิดคำถามว่าทำไมเราต้องมีข้าวของน้อยขนาดนั้นด้วย เราอยากบอกตั้งแต่ต้นว่า หนังสือเล่มนี้นำเสนอแนวคิดแบบมินิมอลลิส์ได้ดีและมีประโยชน์มาก แต่ไม่จำเป็นว่าผู้เริ่มสนใจมินิมอลลิสม์ ต้องพยายามมีข้าวของไม่กี่ชิ้นเหมือนฟุมิโอะ เราสามารถนำแนวทางในหนังสือมาประยุกต์ใช้ โดยเลือกระดับความเข้มข้นให้เหมาะสมกับตนเองได้

                ในหนังสือบอกวิธีลดจำนวนข้าวของไว้เยอะทีเดียว ซึ่งเราจะไม่พูดถึงในที่นี้  เพราะเราจัดบ้านและลดจำนวนข้าวของโดยใช้วิธีแบบคมมาริ (จากหนังสือ ชีวิตดีขึ้นทุกๆ ด้าน ด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว) เป็นหลัก หนังสืออะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป เป็นมินิมอลลิสม์สายแข็ง จึงมุ่งเน้นเก็บเฉพาะข้างของที่จำเป็น ซึ่งของที่จำเป็นจริงๆ นั้นมีจำนวนน้อยมาก ส่วนวิธีแบบคมมาริ จะเก็บเฉพาะของที่สำคัญ ปริมาณข้าวของที่เก็บไว้จึงมีจำนวนมากกว่า เราแนะนำให้อ่านวิธีลดข้าวของในหนังสืออะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป แต่ไม่ต้องทำตามอย่างเคร่งครัด แค่เป็นแนวทางก็พอ เพราะถ้าเราทิ้งของที่ยังไม่พร้อมจะทิ้ง หรือทิ้งของไปแล้วรู้สึกเสียดาย การทิ้งของด้วยความรู้สึกแบบนี้ แทนที่จะทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง กลับทำให้รู้สึกทุกข์

                เนื้อหาส่วนที่เราชอบในหนังสืออะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป คือความคิดและทัศนคติภายในของมินิมอลลิสต์ ซึ่งหนังสือชีวิตดีขึ้นทุกๆ ด้าน ด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียวไม่ได้กล่าวถึงมากนัก เพราะมุ่งเน้นการนำเสนอข้อดีของการจัดบ้านรวมทั้งวิธีการที่ได้ผล เราชอบที่ฟุมิโอะเขียนถึงความคิด ทัศนคติ แรงจูงใจ ที่ทำให้เราซื้อข้าวของเกินจำเป็น ทั้งยังเก็บข้าวของที่ไม่ได้ทำให้มีความสุขไว้ นอกจากนั้นยังนำเสนอแง่มุมอันมืดหม่น ซึ่งเราเองก็มีเหมือนกัน หนังสือเล่มนี้ทำให้ได้รู้ว่ามีมนุษย์คนอื่น ที่มีความทุกข์แบบเดียวกับตัวเอง เราไม่ได้มีปัญหาแบบนี้อยู่คนเดียวในโลก หนังสือเล่มนี้ทำให้เราอยากเข้าใจความคิดของมินิมอลลิสต์คนอื่นมากขึ้น พอเลองหาข้อมูลทั้งจากการอ่านบล็อก ดู youtube ของมินิมอลลิสต์คนอื่น จึงได้พบว่าปัญหาที่เรามี เป็นประเด็นร่วมที่คนจำนวนไม่น้อยก็มีเหมือนกัน และพวกเขาก็ได้พบกับวิธีการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน ด้วยการใช้ชีวิตแบบมินิมอลลิสม์

                - คุณเคยซื้อของตามกระแสนิยม ซึ่งได้ใช้เพียงไม่กี่ครั้งไหม

                - คุณเคยคิดว่าข้าวของบางอย่าง เป็นสิ่งบ่งบอกตัวตนของคุณไหม

                - คุณเคยเปรียบเทียบข้าวของที่คุณมีกับของคนอื่นไหม

                - คุณเคยซื้อข้าวของบางอย่าง ที่คุณไม่ได้ชอบ เพื่อให้คนอื่นยอมรับหรือชื่นชมบ้างไหม

                - การซื้อของด้วยเหตุผลที่กล่าวว่ามา ทำให้คุณรู้สึกอย่างไร

                หนังสืออะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป จะทำให้คุณเข้าใจตัวเองมากขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

What is Minimalism? มินิมอลลิสม์ คืออะไร

ข้อผิดพลาดประการหนึ่งของมินิมอลลิสม์ที่ควรหลีกเลี่ยง Avoid This One Minimalism Mistake

               ในวีดีโอขนาดสั้นนี้   ผมจะแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับข้องผิดพลาดประการหนึ่ง ซึ่งมักพบเจอในผู้คนที่เริ่มฝึกใช้ชีวิตแบบมิ...