วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2562

เศรษฐกิจใหม่แบบมินิมอลลิสต์ ตอนที่ 2


เขียนโดย JOSHUA BECKER
บทความต้นฉบับ A New, Minimalist Economy

เศรษฐกิจใหม่แบบมินิมอลลิสต์ (1)





                ความเข้าใจผิดประการที่สองที่ได้กล่าวไปข้างต้น ความเชื่อว่ามินิมอลลิสม์คือการไม่ใช้จ่าย

                มินิมอลลิสม์ในแง่วิถีชีวิต ไม่ได้เรียกร้องให้ผู้คนเลิกใช้เงินโดยสิ้นเชิง เพียงแค่เปลี่ยนทิศทางการใช้เงิน ให้ออกห่างจากการพยายามครอบครองวัตถุ มินิมอลลิสม์ให้ความสำคัญกับสิ่งอื่น เช่น

                ประสบการณ์ : จากคอนเสิร์ต สู่การรับประทานอาหารนอกบ้าน ชมพิพิธภัณฑ์ ร่วมกิจกรรมกีฬา มินิมอลลิสต์ชื่นชอบประสบการณ์มากกว่าการครอบครองวัตถุ การใช้จ่ายจะเริ่มไปในทิศทางนั้นมากขึ้น

                การเดินทางและท่องเที่ยว : มินิมอลลิสต์จำนวนมากกล่าวว่ามันเป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่สุด ผู้คนบางส่วนรับแนวคิดมินิมอลลิสม์มาใช้เพื่อเป้าหมายนี้โดยเฉพาะ บางส่วนตระหนักว่าการเดินทางและท่องเที่ยวเป็นเพียงผลพลอยได้จากการมีข้าวของน้อยลง ทั้ง 2 แนวทางต่างส่งผลกระทบอย่างสำคัญต่อเศรษฐกิจ การไม่ใช้เงินเพื่อครอบครองวัตถุแบบประเดี๋ยวประด๋าว ทำให้มีเงินพอท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมจำนวนมากก็จะถูกเรียกร้องให้ผลิตสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการนี้

                ศิลปะ : ไม่ใช่มินิมอลลิสต์ทุกคนที่มองว่าตัวเองเป็นศิลปินในทางปฏิบัติ หรือชื่นชอบศิลปะ แต่คาดได้ว่าเศรษฐกิจแบบมินิมอลลิสม์จะให้คุณค่ากับศิลปะมากขึ้น มินิมอลลิสม์ทำให้ผู้คนมีโอกาสฝึกฝนและชื่นชมศิลปะมากขึ้น

                ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพมากขึ้น : การใช้ชีวิตคือการบริโภค พวกเราต้องการอาหาร ที่อยู่และเสื้อผ้า ทั้งยังมีความปรารถนาและเป้าหมายที่อยากเติมเต็มในชีวิตอันแสนสั้น ความต้องการและเป้าหมายเหล่านี้จำเป็นต้องใช้สินค้าบางอย่าง มินิมอลลิสม์ไม่ได้ปฏิเสธการซื้อข้าวของ แต่ให้โอกาสเราได้ครอบครองสินค้าที่มีคุณภาพดีขึ้น ในเศรษฐกิจแบบมินิมอลลิสต์ การออกแบบที่ดี ใช้งานได้หลากหลาย และคุณภาพดีเป็นที่ต้องการและถูกซื้อหา

                บริการ : ในธุรกิจแบบมินิมอลลิสม์ งานบริการเป็นที่ต้องการมากกว่าครอบครองสินค้าจากร้านขายปลีก ในฐานะทางออกชั่วคราว เพื่อนของผมเพิ่งจ้างแม่ครัวส่วนตัว เพื่อเติมตำแหน่งผู้ช่วยส่วนตัวให้ครบ เขากล่าวว่ามินิมอลลิสม์คือเครื่องมือที่ทำให้เขาได้สิ่งนี้มา เพราะเขาใช้เงินซื้อสิ่งของน้อยลง เขามีเวลาว่างในตารางงาน และมีเงินจ้างบริการเหล่านี้ บริการที่ในระยะยาว คือการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดี ความเป็นอยู่ที่ดี และความสมบูรณ์

                การวิจัยและการแก้ปัญหา : Mr.Money ได้ให้ความเห็นว่าการเก็บออมและการลงทุน แสดงถึงพลวัตของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริง

                การเลิกบริโภคอย่างไม่หยุดหย่อน การใช้สินค้าร่วมกัน ทำให้ผู้คนสามารถเก็บออมเงินในธนาคาร ซึ่งจบลงในมือของผู้ประกอบการใหม่หรือธุรกิจที่มีอยู่ ผู้ซึ่งสามารถใช้เงินนั้นสร้างเทคโนโลยีใหม่ สร้างโรงงาน ลงทุนกับทรัพยากรมนุษย์ เปิดโอกาสให้พวกเขาเพิ่มความสามารถในการผลิต การลงทุนสร้างผลผลิต และผลผลิตเป็นสิ่งผลักดันมาตรฐานการใช้ชีวิต

                การใช้ร่วมกัน(sharing) : การเคลื่อนไหวนี้ได้ดำเนินการไปแล้วสักพัก เทคโนโลยีทำให้มันเป็นไปได้ ทรัพยากรและผลิตภัณฑ์ถูกใช้ร่วมกันในปัจจุบัน ในหมู่ประชาชน มากกว่าในอดีตที่ผ่านมา ทั้ง Uber AirBnb Fon และ NiceRide มีตัวอย่างรอบตัวเราให้เห็น อุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตขึ้น ทำให้เราเห็นภาพรวมของเศรษฐกิจในอนาคต อีกครั้งที่แต่ละคนเป็นตัวแทนความคิดสร้างสรรค์ของปัจเจก และจิตวิญญาณของผู้ประกอบการ

                Public Good : สิ่งนี้เป็นตัวแทนประโยชน์สูงสุดของมินิมอลลิสม์ในระดับมหภาค มินิมอลลิสม์ให้โอกาสแก่ปัจเจกได้ฝึกฝนความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ในระดับกว้างขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน มินิมอลลิสม์ให้โอกาสเราเปลี่ยนทิศทางการใช้ทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด ให้ไปพ้นจากความต้องการของตนเอง และเริ่มใช้ในหนทางอันเป็นรูปธรรม เพื่อบรรจบกับความจำเป็นของผู้อื่น ทั้งการให้อาหารผู้หิวโหย สร้างบ้านเด็กกำพร้า รักษาสิ่งแวดล้อม คุ้มครองสัตว์ ต่อต้านการใช้อภิสิทธิ์ ทรัพยากรของพวกเราสามารถทำให้โลกนี้เป็นสถานที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน

                เศรษฐกิจจะสะดุดหากมินิมอลลิสม์ขยายสู่ระดับประเทศหรือไม่ แน่นอน เศรษฐกิจในปัจจุบันที่มีพื้นฐานอยู่บนการบริโภคเกินควรจะชะลอตัว มันจะสะดุดในระยะสั้น แต่จะเกิดการปรับเปลี่ยนตัวเองในที่สุด อย่างที่เคยเป็นมาเสมอ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

What is Minimalism? มินิมอลลิสม์ คืออะไร

ข้อผิดพลาดประการหนึ่งของมินิมอลลิสม์ที่ควรหลีกเลี่ยง Avoid This One Minimalism Mistake

               ในวีดีโอขนาดสั้นนี้   ผมจะแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับข้องผิดพลาดประการหนึ่ง ซึ่งมักพบเจอในผู้คนที่เริ่มฝึกใช้ชีวิตแบบมิ...