วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2562

เศรษฐกิจใหม่แบบมินิมอลลิสต์ ตอนที่ 1


เขียนโดย JOSHUA BECKER
บทความต้นฉบับ A New, Minimalist Economy





               ครั้งแรกที่ผมได้ยินคำถาม ผมนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นของแม่ยาย เราเปิดโทรทัศน์ไปที่ช่อง MSNBC เพื่อดูสัมภาษณ์แทมมี่ สตรอเบล (Tammy Strobel) หลังจากปรากฏตัวในรายการ Today Show ใน New York Times แทมมี่ได้รับเชิญไปให้สัมภาษณ์ในเคเบิล เนตเวิร์ค เกี่ยวกับประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบมินิมอลลิสต์และอาศัยอยู่ในบ้านหลังจิ๋ว

                เมื่อจบบทสนทนา พิธีกรถามคำถามสำคัญกับแทมมี่ว่า “หากทุกคนเป็นมินิมอลลิสต์และใช้ชีวิตเหมือนคุณ จะเกิดอะไรขึ้นกับระบบเศรษฐกิจของเรา คุณเคยให้ความคิดเห็นถึงผลกระทบที่จะตามมาบ้างไหม” ในรายการสัมภาษณ์พิเศษ ซึ่งกินเวลาล่วงเลยไปนาน

                จากนั้นมาผมก็เข้าใจว่าคำถามเกี่ยวกับผลกระทบของมินิมอลลิสต์ต่อระบบเศรษฐกิจของเราเป็นเรื่องสำคัญ และมีนัยยะสำคัญต่อเปอร์เซ็นต์จำนวนประชากร ในการสัมมนาครั้งหนึ่ง ผมถูกถามคำถามเดียวกัน เมื่อไม่นานมานี้ หลังกิจกรรมที่ Phoenix CEO ก็มาคุยกับผมในเรื่องนี้เช่นกัน

                “โจชัว ผมเข้าใจที่คุณพูดเกี่ยวกับการครอบครองข้าวของน้อยลง ซึ่งผมเห็นด้วยในระดับปัจเจกบุคคล อย่างไรก็ตาม ความอยู่ดีกินดีของประเทศเรา ต้องพึ่งพาให้ผู้คนซื้อของที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องมี ถ้ามีมินิมอลลิสต์มากระดับประเทศ เศรษฐกิจของเราคงพังพินาศ”

                ก่อนที่ผมจะตอบปัญหาที่เขากังวล ผมได้ใคร่ครวญถึงผลกระทบระยะสั้น และระยะถัดไปอีกเล็กน้อย บางทีสิ่งที่เขาพูดมาอาจถูก

                มีปัจจัยมากมายมหาศาลที่กระตุ้นให้เกิดการบริโภคเกินพอดีอย่างแพร่หลายในสังคมร่ำรวยในโลกทุกวันนี้ ในแง่เฉพาะตัว มันคือปัญหาในจิตใจ ที่ทำให้เกิดการบริโภคเกินพอดี ทั้งความโลภ ความอิจฉา การขาดความเห็นใจ ความปรารถนาจะทำให้ผู้อื่นประทับใจในตัวเอง ความภูมิใจ ความพยายามชดเชยบุคลิกที่บกพร่อง นิสัยชอบเสาะแสวงหาความสุขจากการครอบครองสิ่งของ การไม่ตระหนักถึงความเสียหาของการบริโภคเกินพอดี

                ทว่าหนักยิ่งกว่านั้น คือปัญหาจากสังคม ระบบเศรษฐกิจในระดับมหภาคของพวกเรา ตั้งอยู่บนการบริโภคเกินพอดี และจำเป็นต้องให้ผู้คนทุกชนชั้นใช้จ่ายมากกว่าที่พวกเขามี ผู้ค้าปลีกที่หมดกำลังใจ ผู้บริโภคที่มีความเชื่อมั่นต่ำ มักถูกรายงานว่าเป็นหายนะของระบบเศรษฐกิจ

                “เราต้องทำให้ผู้คนใช้จ่ายมากขึ้น” นี่คือประโยคยอดฮิตของนักข่าว ในฐานะหนทางเดียวที่จะฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจที่กำลังฝืดเคือง อันที่จริง ในหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา มีข่าวเศร้าเกี่ยวกับแนวโน้มการชำระหนี้ของผู้บริโภค “ถ้าผู้บริโภคเลือกเก็บเงินเพื่อชำระหนี้ ก็คาดถึงความเศร้าสลดล่วงหน้าได้เลย”

                คำถามแรกของผมหลังจากอ่านหัวข้อคือ สังคมแบบไหนที่เราสร้างขึ้นโดยเรียกร้องให้ผู้คนต้องเป็นหนี้ เพื่อประคับประคองมันไว้ มันจะดำรงอยู่ได้นานแค่ไหน ทว่ายิ่งไปกว่านั้น ผมถูกเตือนให้นึกถึงคำถามที่ถูกถามเป็นประจำ ซึ่งได้ยินครั้งแรกจากการถามแทมมี่ ในรายการ MSNBC

                มินิมอลลิสม์กับความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจอยู่ด้วยกันได้หรือไม่

                ผมเชื่อว่าทำได้ และไม่ใช่ผมคนเดียวที่เชื่อเช่นนั้น สำหรับมือใหม่ และผู้คนที่แย้งว่าทั้งสองเข้ากันไม่ได้ พวกเขามองพลาดภาพใหญ่ของ 2 ด้านที่สำคัญไป นั่นคือความยืดหยุ่นในระบบทุนนิยม และความเข้าใจผิดว่ามินิมอลลิสม์คือการไม่ใช้จ่ายใดๆ เลย

                อย่างแรกเกี่ยวกับความยืดหยุ่นในระบบเศรษฐกิจของเรา มีความเชื่ออย่างแพร่หลายว่าตลาดและธุรกิจคอยควบคุมพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งถูกต้องในระดับหนึ่ง นักการตลาดใช้เวลาหลายชั่วโมง พยายามสร้างนิสัยใหม่ให้ผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคซื้อของที่พวกเขาผลิตขึ้นโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจโดยแก่นแท้ คือการจัดหาสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ไม่ใช่เหตุผลอื่น

                ตัวอย่างความสอดคล้องต้องกันในการผลิตและขายเสื้อผ้าราคาถูกตามกระแส การจะทำเช่นนั้นได้ พวกเขาต้องจ่ายค่าจ้างราคาถูกอันไม่เป็นธรรม ให้กับแรงงานจากที่ไหนสักแห่ง เพื่อผลิตเสื้อผ้าที่ราคาถูกมากๆ ได้ เราต่างยกมือขึ้นด้วยความรังเกียจ จากนั้นก็ขับรถไปที่ร้านค้าเพื่อซื้อเสื้อยืดราคาถูก ผลที่ตามมาคือ สินค้าราคาถูก ทั้งเสื้อยืด เสื้อกันหนาว ชุดเดรส รองเท้า ถูกผลิตออกมามากขึ้น

                อย่างไรก็ตาม หากในที่สุดผู้บริโภคจำนวนมากกล่าวว่า “พอแล้ว ฉันจะจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อซื้อเสื้อผ้า เพื่อให้แน่ใจว่าแรงงานจากทั่วทุกมุมโลกจะได้ทำงานภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม” และทำอย่างนั้นจริงๆ คลังสินค้าเหล่านี้จะเปลี่ยนการกระทำและแบบแผนการดำเนินงาน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคม ที่พวกเขาผลิตเสื้อผ้าขาย

                ธุรกิจอาจสร้างอิทธิพลต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคในบางแง่มุม ทว่าในกฎเกณฑ์ระยะยาว พวกเขาตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค มากกว่าสร้างขึ้นมา

                ซึ่งทำให้ผมย้อนกลับไปยังทำถามเริ่มต้น เศรษฐกิจของพวกเราจะสะดุดและถดถอยหากคนส่วนใหญ่กลายเป็นมินิมอลลิสม์หรือไม่ ในระยะสั้น ใช่ มันจะเกิดการสะดุดระหว่างทางอย่างแน่นอน ทว่าเศรษฐกิจที่ตั้งอยู่บนตลาดเสรี หลักการลงทุน สามารถนำเสนอตัวเองในรูปแบบใหม่ได้เสมอ จิตวิญญาณผู้ประกอบการ จะพบหนทางใหม่ในการสร้างรายได้เสมอ และพวกเขาจะทำแนวทางใหม่ให้สอดคล้องกับมินิมอลลิสม์

เศรษฐกิจใหม่แบบมินิมอลลิสต์ (2)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

What is Minimalism? มินิมอลลิสม์ คืออะไร

ข้อผิดพลาดประการหนึ่งของมินิมอลลิสม์ที่ควรหลีกเลี่ยง Avoid This One Minimalism Mistake

               ในวีดีโอขนาดสั้นนี้   ผมจะแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับข้องผิดพลาดประการหนึ่ง ซึ่งมักพบเจอในผู้คนที่เริ่มฝึกใช้ชีวิตแบบมิ...