วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

รีวิวหนังสือ ชีวิตดีขึ้นทุกๆ ด้าน ด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว





                ขอบอกก่อนนิดนึง ว่าเรารีวิวหนังสือเล่มนี้จากมุมของคนที่อ่านจบ 2 รอบ และได้ทำการจัดบ้านตามแนวทางในหนังสือเล่มนี้ไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อต้นปี  2561

                หนังสือชีวิตดีขึ้นทุกๆ ด้าน ด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว เขียนโดย คนโด มาริเอะ เป็นหนังสือขายดีมากทั้งในต่างประเทศ และในประเทศไทย มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษด้วย จึงมี youtuber ชาวอเมริกันพูดถึงการจัดบ้านตามแนวทางหนังสือเล่มนี้หลายคน จากความนิยมที่มากมายขนาดนี้ ทำให้คาดว่าหนังสือเล่มนี้ต้องมีดี ซึ่งก็มีจริงๆ

                มาริเอะ ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ สนใจด้านการจัดบ้านมาตั้งแต่วัยเด็ก เธอศึกษาและทดลองวิธีการมามากมาย จนกระทั่งค้นพบวิธีการของตนเอง ชื่อว่าวิธีแบบคมมาริ ซึ่งมาจากชื่อของเธอเอง มาริเอะกล่าวว่าวิธีการของเธอมีประสิทธิภาพสูงมาก ลูกค้าของเธอไม่ต้องมาเรียนซ้ำอีก เพราะวิธีการนี้ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ หลังจากจัดบ้านตามวิธีคมมาริ บ้านจะไม่กลับมารกอีกเลย

                ตอนอ่านหนังสือครั้งแรก เราไม่ค่อยชอบเท่าไร เพราะคิดว่าผู้เขียนโอ้อวดเกินไป วิธีการอะไรจะดีขนาดนั้น เนื้อหาก็ค่อนข้างเป็นนามธรรม บรรยายไปเรื่อยๆ ไม่มีภาพประกอบ รู้สึกว่าเข้าใจยาก ทำให้อ่านไปได้ประมาณ 50 หน้าก็เลิกอ่าน เรามาเริ่มสนใจวิธีจัดบ้านแบบคมมาริอีกครั้ง หลังจากอ่านบันทึกของรุ่นพี่ (เราเรียนป.โท) พอมาอ่านอีกครั้งอย่างเปิดใจ วางความหมั่นไส้ที่คิดว่าผู้เขียนโอ้อวดไว้ก่อน เราพบว่าเนื้อหาในหนังสือน่าสนใจดี บวกกับก่อนหน้านั้นเราไปเข้ากัมมัฏฐานมา 2 เดือน มีของใช้เท่าที่จำเป็น จึงยิ่งเห็นข้อดีของการมีข้าวของจำนวนน้อย

                จุดเด่นของวิธีการแบบคมมาริ ที่ไม่เคยพบในหนังสือเล่มอื่นมาก่อน คือการจัดบ้านครั้งใหญ่แบบรวดเดียวจบ ในหนังสือหรือนิตยสารอื่นๆ มักแนะนำให้ค่อยๆ จัดไปทีละนิด เพราะไม่อยากให้เหนื่อยเกินไป หรือรู้สึกท้อแท้ มาริเอะกล่าวว่าจำเป็นต้องจัดครั้งใหญ่ครั้งเดียวแบบรวดเดียวจบ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ได้เห็นผลจากการจัดบ้านอย่างชัดเจน

                ตอนแรกเรารู้สึกหนักใจกับการจัดบ้านครั้งใหญ่รวดเดียวจบ แต่ก็อยากลองทำดู เพราะรุ่นพี่ที่มหาลัยลองทำมาแล้ว มันคงไม่ยากขนาดนั้นหรอกมั้ง เราใช้เวลาจัดประมาณ 2 เดือนกว่าๆ ถึงเสร็จ ช่วงที่จัดบางทีก็เหนื่อย บางทีก็ท้อ บางทีก็เครียด อยากให้เสร็จไวๆ บางทีก็หงุดหงิดเมื่อเห็นข้าวของรกๆ ที่มากเกินจำเป็นของพ่อกับแม่ แต่ทำอะไรไม่ได้ เราทำได้แค่จัดการกับข้าวของของตัวเอง

                หลักการคมมาริ สรุปได้คร่าวๆ คือ เก็บไว้เฉพาะของที่สร้างความสุขให้เรา ของที่ไม่ได้สร้างความสุขแต่จำเป็นต้องมี อย่างกรรไกรตัดเล็บก็ต้องเก็บไว้ด้วยนะ ของส่วนที่เหลือให้ขจัดออกไป ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ทิ้ง บริจาค ขาย เป็นต้น พอเลือกของที่ต้องการเก็บไว้ได้แล้ว ก็เก็บของชนิดเดียวกันให้อยู่ในที่เดียวกัน และควรเก็บไว้แค่จุดเดียวเท่านั้น แค่ทำตามหลักการ 2 ข้อนี้ บ้านก็จะโล่งและเป็นระเบียบขึ้นแล้ว ส่วนรายละเอียดปลีกย่อย แนะนำให้อ่านในหนังสือ

                จากการจัดบ้านตามแนวทางคมมาริ เราพบว่ามีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นจริงตามชื่อหนังสือ แต่ไม่ได้ดีมากๆ เหมือนกับเรื่องเล่าของบางคนในหนังสือ สิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในด้านนิสัย เรากลายเป็นคนที่มีระเบียบ สามารถแยกประเภท แบ่งกลุ่ม และจัดการสิ่งต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่เฉพาะข้าวของเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสิ่งอื่นๆ อย่างเช่นเอกสารและข้อมูลที่ใช้ในงานวิจัย เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น (แต่ยังไม่ทั้งหมด) จัดระเบียบความคิดได้ดีขึ้น รู้สึกสบายใจ พอห้องปลอดโปร่งเป็นระเบียบ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องสภาพแวดล้อม ทำให้มีเวลาแก้ปัญหาอย่างอื่นที่สำคัญกว่า

                ด้านพฤติกรรม เรากลายเป็นคนที่มีระเบียบมากขึ้น เวลาใช้ข้าวของต่างๆ เสร็จแล้ว ก็จะเก็บคืนที่เดิมเสมอ ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง เป็นระเบียบตลอดเวลา โต๊ะทำงานอยู่ในสภาพพร้อมใช้เสมอ เวลาต้องการใช้อะไรเราจะหาเจอ เพราะรู้ว่าเก็บไว้ที่ไหน อะไรที่ไม่มีก็จะรู้ทันทีว่าไม่มี เพราะเก็บอยู่ที่เดียว ไม่ต้องเสียเวลาไปหาที่อื่นอีก ทำความสะอาดบ้านได้ง่ายขึ้น ไม่รู้สึกเหนื่อยเหมือนเมื่อก่อน เนื่องจากเก็บไว้เฉพาะของที่ทำให้มีความสุข เราจึงใช้ของชิ้นนั้นซ้ำๆ โดยไม่รู้สึกเบื่อ และไม่ค่อยรู้สึกอยากได้ของเพิ่ม เพราะพอใจกับของที่มีอยู่แล้ว จำนวนข้าวของที่มีจึงค่อนข้างคงที่

                หลังจากจัดบ้านครั้งใหญ่ ห้องของเราก็ไม่กลับมารกอีกเลยเป็นเวลาเกือบปีแล้ว หลังจากทดลองจัดบ้านแบบคมมาริจนเสร็จ เราพบว่ามาริเอะพูดความจริง เธอไม่ได้โอ้อวด ไม่ได้โฆษณาเกินจริง วิธีนี้ได้ผล เรารู้สึกขอบคุณมาริเอะที่แบ่งปันวิธีการอันได้ผลนี้ ทำให้เราสามารถแก้ปัญหาบ้านรกได้อย่างถาวร เราคิดว่าคนที่มีปัญหาบ้านรกและอยากจะจัดการ ควรอ่านและทำตามแนวทางของหนังสือเล่มนี้ อาจจะเหนื่อย ท้อ หรือเครียดบ้าง แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคุ้มค่าจริงๆ ถ้าไม่ได้ลองเองจะไม่รู้ เพราะฉะนั้นไปซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านแล้วลองทำตามเถอะค่ะ

1 ความคิดเห็น:

  1. อ่าน 2 รอบ และฟังหนังสือเสียงอีกหลายรอบ ตอนนี้ห้องโล่งและมีระเบียบจนน่าตกใจเลยค่ะ มีแต่คนชมว่าห้องเรียบร้อยมา

    ตอบลบ

What is Minimalism? มินิมอลลิสม์ คืออะไร

ข้อผิดพลาดประการหนึ่งของมินิมอลลิสม์ที่ควรหลีกเลี่ยง Avoid This One Minimalism Mistake

               ในวีดีโอขนาดสั้นนี้   ผมจะแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับข้องผิดพลาดประการหนึ่ง ซึ่งมักพบเจอในผู้คนที่เริ่มฝึกใช้ชีวิตแบบมิ...