บทความต้นฉบับ Helping Kids Overcome Envy
เขียนโดย JOSHUA BECKER
คุณไม่สามารถดักจับความอิจฉา
คุณไม่อาจจ่ายเงินเกินกำลังเพื่อหยุดความริษยา แทนที่จะทำเช่นนั้น เราควรสอนเด็กๆ
ให้รับมือกับความอิจฉาและเอาชนะมัน
อุปสรรคที่พ่อแม่ทั้งหลายมักมีร่วมกันบนเส้นทางการทำชีวิตให้เรียบง่ายขึ้น
คือความคิดว่าต้องปกป้องลูกๆ จากความอิจฉา พวกเขากลัวว่าถ้าบ้านไม่เต็มไปด้วยข้าวของทันสมัย
ผลิตภัณฑ์ชั้นเลิศ ลูกๆ ของพวกเขาจะรู้สึกอิจฉาเด็กคนอื่น ทว่าบทบาทของพวกเราในฐานะพ่อแม่
ไม่ใช่การขจัดโอกาสที่จะก่อให้เกิดความอิจฉา
บทบาทของพวกเราคือการเลี้ยงลูกอย่างใส่ใจ และฝึกฝนให้พวกเขาครุ่นคิดอย่างมีสติเกี่ยวกับความอิจฉา
รวมทั้งเรียนรู้ที่จะเอาชนะมัน
ไม่กี่ปีก่อน
ผมขับรถพาลูกชายและเพื่อนๆ 5 คน ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงไปยังร้านอาหารเพื่อฉลองวันเกิดของเขา
เด็กแต่ละคนอาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงกัน ทว่ามันยังคงเป็นตัวแทนสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมที่กว้าง
อย่างที่พอเดาได้ หัวข้อสนทนาบนรถของพวกเขามีหลากหลาย
ทว่าบทสนทนาหนึ่งที่ดังจากเบาะหลัง กระตุ้นความสนใจของผมมากกว่าอย่างอื่น
เด็กผู้ชาย
2 คนที่นั่งข้างหลัง เรื่องเปรียบเทียบชีวิตตนเองกับของอีกคน
แน่นอน ผมรู้ว่ามันเป็นบทสนทนาที่พบได้ทั่วไป เมื่อก่อนผมเองก็เคยมีบทสนทนาคล้ายๆ
กัน แต่สิ่งที่ผมพบว่าน่าสนใจเป็นพิเศษ และกระตุ้นให้ผมแอบฟัง คือระดับความอิจฉาต่อกันและกันที่ปรากฏขึ้น
ตอนแรก
พวกเขาเริ่มเปรียบเทียบเครื่องเล่นเกมส์ เปรียบเทียบว่าใครมีจำนวนเกมส์มากกว่า
จากนั้นก็ยี่ห้อรถยนต์ที่พ่อกับแม่ของพวกเขาขับ ตามด้วยบทสนทนาเกี่ยวกับขนาดของบ้าน
แล้วการพูดคุยก็เปลี่ยนไปเป็นการเปรียบเทียบนักกีฬา ทีมกีฬา และเรื่องเด็กผู้หญิง
ในแต่ละครั้งที่เปลี่ยนหัวข้อ พวกเขาพยายามเอาชนะอีกฝ่ายเสมอ
เด็กผู้ชาย
2 คนนั้นมาจากครอบครัวฐานะดี ผมเห็นได้ว่าพวกเขาอิจฉาอีกฝ่าย
รวมทั้งอิจฉาการจับจ่ายข้าวของบางอย่างของพ่อแม่อีกฝ่ายด้วย
ผมได้เรียนรู้บทเรียนการเลี้ยงลูกที่สำคัญยิ่งในวันนั้น
คุณไม่สามารถดักจับความอิจฉา หรือใช้จ่ายเพื่อเอาชนะมัน
เกมส์การแข่งขันคือเกมส์ที่ไม่มีวันชนะ ในหมู่คนที่เลือกเล่น ไม่มีใครเป็นผู้ชนะ
มีแต่ผู้แพ้ ไม่มีใครสามารถครอบครองได้ทั้งหมด
ไม่มีใครสามารถซื้อได้มากพอจะขจัดความอิจฉาออกไปได้ จะมีบางสิ่งให้อิจฉาอยู่เสมอ
แทนที่จะพยายามใช้จ่ายเกินกำลังเพื่อขจัดความอิจฉา
เราต้องสอนวิธีรับมือและเอาชนะความริษยาให้ลูกๆ เป็นเรื่องจำเป็นที่เราต้องช่วยพวกเขาให้เรียนรู้ที่จะใส่ใจกับด้านบวก
ความคิดตื้นเขินของการเปรียบเทียบ รวมทั้งความโง่เขลาของความอิจฉา
เราต้องสอนให้พวกเขาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และสำนึกคุณ
รวมทั้งยินดีกับความสำเร็จของผู้อื่น
ความอิจฉาจับกุมลูกๆ
ของเราไว้เหมือนเชลย ในฐานะพ่อแม่ เราต้องตระเตรียมพวกเขาให้สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการ
และมีประสบการณ์ชีวิตที่เติมเต็มกว่า พวกเราก็ต้องเรียนรู้บทเรียนนี้ด้วยเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น