วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2562

เส้นทางมินิมอลลิสม์ของแอดมิน


บทความนี้เล่าเรื่องมินิมอลลิสม์ของแอดมินแบบคร่าวๆ จ้า      

         ตอนแรกเราไม่ได้เริ่มจากมินิมอลลิสม์โดยตรง เริ่มจากการซื้อหนังสือ “ชีวิตดีขึ้นทุกด้านด้วยการจัดบ้านครั้งเดียว” ของคนโด มาริเอะมาอ่าน เพราะอ.ที่มหาลัยกับรุ่นพี่แนะนำว่าดี อ่านไปได้ไม่มากก็เลิกอ่าน เพราะรู้สึกว่าเป็นนามธรรมเกินไป ต่อมาไปปฏิบัติธรรม 2 เดือน ช่วงกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมปี 2561 ตอนนั้นใช้ชีวิตแบบ extreme minimalist โดยที่ยังไม่รู้จักคำว่ามินิมอลลิสม์ เรามีข้าวของเท่าที่จำเป็นจริงๆ ใส่ชุดขาวเหมือนเดิมทุกวัน  ประสบการณ์ช่วง 2 เดือนนั้น ทำให้รู้ว่าตัวเองสามารถใช้ชีวิตโดยมีข้าวของจำนวนน้อยเท่าที่จำเป็นได้ ของทุกอย่างมีไว้เพื่อใช้จริงๆ ไม่ได้มีเพื่อความสวยงามหรือเอาไว้อวดคนอื่น หรือเอาไว้สร้างภาพลักษณ์ให้ตนเอง



(ขอยืมภาพจาก https://www.pinterest.com/pin/113364115599296315/)


                พอกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ นิสัยเดิมๆ ก็กลับมา แต่ประสบการณ์ extreme minimalist ในช่วงนั้น ทำให้เกิดคำถามบางอย่าง ที่อยากทำความเข้าใจ จึงอ่านหนังสือชีวิตดีขึ้นทุกด้านด้วยการจัดบ้านครั้งเดียวจนจบ แล้วซื้อหนังสืออะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไปมาอ่านเพิ่ม แล้วก็พบว่าการใช้ชีวิตช่วงปฏิบัติธรรม เป็นรูปแบบที่ใกล้เคียงกับมินิมอลลิสต์สาย extreme ที่มีข้าวของเท่าที่จำเป็นจริงๆ หลังจากอ่านหนังสือสองเล่ม บวกกับอ่านประสบการณ์จัดบ้านแนวคมมาริของรุ่นพี่ เรารู้สึกชอบแนวทางแบบคมมาริมากกว่า เพราะเก็บไว้เฉพาะของสำคัญที่ทำให้เรามีความสุข จำนวนของที่มีจึงมากกว่าแนวทางของหนังสืออะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป ซึ่งมีข้าวของเท่าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ

                หลังจากตัดสินใจแล้ว ก็ทำการจัดบ้านแบบรวดเดียวจบตามแนวทางคมมาริ ใช้เวลาสองเดือนกว่า ทิ้งและบริจาคข้าวของไปจำนวนมาก แล้วก็ทดลองใช้เสื้อผ้าชิ้นหลักเพียง 20 ชิ้น มี 4 สี คือขาว เทา ดำ น้ำเงิน เก็บบางส่วนไว้อีกฝั่งของตู้เสื้อผ้า เพราะยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถอยู่ได้โดยมีเสื้อผ้าชิ้นหลักเพียง 20 ชิ้นหรือไม่ จากวันนั้นผ่านไปหนึ่งปีแล้ว พบว่าเสื้อผ้าชิ้นหลัก 20 ชิ้นเพียงพอ หลังจากจัดบ้านแบบคมมาริ ห้องของเราก็ไม่กลับมารกอีกเลย ชีวิตไม่ได้ดีขึ้นเท่าไหร่ ไม่ได้มีเหตุการณ์ดีๆ อะไรเกิดขึ้นเหมือนชื่อหนังสือ สิ่งที่ดีคือนิสัยดีขึ้น เป็นระเบียบมากขึ้น ของไม่หาย หาของเจอเสมอเพราะเก็บที่เดิมทุกครั้ง แล้วก็ทำความสะอาดบ้านง่ายขึ้นด้วย

                ในเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมปี 2561 เราไปปฏิบัติธรรมอีก 2 เดือน ผู้คนในชุมชมผู้ปฏิบัติธรรมจะมีข้าวของจำนวนน้อยเท่าที่จำเป็นจริงๆ และแต่งกายอย่างเรียบง่ายเหมือนเดิมทุกวัน จึงไม่มีการเปรียบเทียบเรื่องสิ่งของระหว่างกัน ซึ่งทำให้เรารู้สึกสบายใจที่ไม่ต้องพยายามซื้อข้าวของเพื่อทำให้ตัวเองดูสวยดูดี เพื่อให้ใครประทับใจ แม้ไม่ต้องเปรียบเทียบเรื่องข้าวของ แต่เราก็ยังเปรียบเทียบอย่างอื่นที่เป็นนามธรรมกว่า อย่างความสามารถ บางทีก็มีความหยิ่งทะนง บางทีก็รู้สึกด้อยค่า

                หลังจากกลับมาใช้ชีวิตปกติ คำกล่าวของผู้เขียนหนังสืออะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป ที่ว่าเขารู้สึกเป็นอิสระ เมื่อไม่ต้องเปรียบเทียบความสามารถของตัวเองกับผู้อื่น ทั้งยังกล่าวว่าความสามารถก็เช่นเดียวกับสิ่งของ มันไม่ใช่สิ่งบ่งบอกคุณค่าของตนเอง ข้อความเหล่านี้ทำให้เราอยากเข้าใจมินิมอลลิสม์ในแง่ทัศนคติเพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องเทคนิควิธีการลดปริมาณกับจัดเก็บข้าวของ เราคิดว่าตัวเองทำได้ดีพอแล้ว โดยทำตามวิธีคมมาริ การศึกษามินิมอลลิสม์ของเราจึงมุ่งไปที่การทำความเข้าใจแนวคิดและทัศนคติ

                พอได้อ่านบทความและดูยูทูปของมินิมอลลิสต์ชาวต่างชาติ ก็พบว่าปัญหาที่ตัวเองมี มินิมอลลิสต์บางคนก็มีเหมือนกัน โดยเฉพาะปัญหาเรื่องการซื้อของบางอย่างเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้คนอื่นประทับใจ ละเอียดขึ้นมาหน่อย คือการทำบางอย่างที่ตัวเองไม่ได้อยากทำจริงๆ และไม่ได้สำคัญกับตัวเอง เพื่อพิสูจน์คุณค่าของตัวเองและทำให้คนอื่นประทับใจ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากสมาชิกในบ้าน ซึ่งเราพบว่าการทำแบบนี้ไม่มีเคยสำเร็จจริงๆ สักที และมีแต่นำความทุกข์มาให้

                เราเรียนรู้จากมินิมอลลิสต์คนอื่นที่มีปัญหาเดียวกัน และลองทำตาม โดยการถามว่าสิ่งที่อยากซื้อ หรือต้องทำ มีความสำคัญต่อตัวเองจริงหรือไม่ สิ่งนั้นหรือการกระทำนั้น สร้างคุณค่าให้แก่ชีวิตตัวเองไหม เราซื้อหรือทำบางสิ่งเพื่อให้คนอื่นนิยมชมชอบหรือเปล่า การถามคำถามอย่างรอบคอบ ทำให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีปัญหานี้ มีเพื่อนบางคนที่ไม่มีปัญหานี้เลย และไม่เข้าใจว่าเราทำแบบนั้นไปทำไม มินิมอล ลิมส์ช่วยนำทัศนคติผิดๆ ที่สร้างความทุกข์แก่เราออกไป ทำให้เราทุกข์น้อยลง

                ด้วยเหตุนี้เราจึงอยากเผยแผ่ความรู้เกี่ยวกับมินิมอลลิสม์ให้กับคนที่ต้องการ แต่ตัวเองยังไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ จึงใช้การแปลบทความจากมินิมอลลิสต์ต่างประเทศ ที่ลงในบล็อกสาธารณะ เป็นภาษาไทย คิดว่าเขาคงไม่ว่าอะไร เพราะเขียนให้อ่านฟรีอยู่แล้ว งานแปลเป็นงานที่เราพอจะทำได้เพื่อเผยแผ่ความรู้เกี่ยวกับมินิมอลลิสม์ อยากเขียนเองด้วย แต่เขียนเองต้องคิดมากกว่า ตอนนี้จึงมีแค่รีวิวหนังสือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

What is Minimalism? มินิมอลลิสม์ คืออะไร

ข้อผิดพลาดประการหนึ่งของมินิมอลลิสม์ที่ควรหลีกเลี่ยง Avoid This One Minimalism Mistake

               ในวีดีโอขนาดสั้นนี้   ผมจะแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับข้องผิดพลาดประการหนึ่ง ซึ่งมักพบเจอในผู้คนที่เริ่มฝึกใช้ชีวิตแบบมิ...